Dodge Hornet R/T FC1-X ที่มีกำลัง 1,070 แรงม้า จะเข้าร่วมการแข่งขันในซีรีส์ Nitrocross ซึ่งจะเริ่มขึ้นปลายเดือนนี้
รถคันนี้มาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้า จำนวน 4 ตัวที่มอบพลัง 1,070 แรงม้า สามารถเร่งจาก 0-60 ไมล์ต่อชั่วโมงได้ ภายใน 1.4 วินาที
แม้ว่า Nitrocross จะไม่ใช่ NASCAR แต่ก็มีฐานแฟนรุ่นใหม่ที่น่าสนใจสำหรับ Dodge
ความสำคัญของ Hornet ต่อ Dodge
Hornet ถือเป็นรถที่สำคัญที่สุดของ Dodge ในรอบกว่าทศวรรษ แต่กลับได้รับการตอบรับที่ค่อนข้างเงียบงัน โดยบริษัทคาดว่าจะขายได้เพียง 23,436 คัน ในสหรัฐอเมริกาในปีนี้ เปรียบเทียบกับ Ford ที่สามารถขาย Escape ได้ถึง 37,943 คัน ในไตรมาสที่สองเพียงไตรมาสเดียว
ถือเป็นเรื่องที่หนักหนาพอสมควร แต่ในที่สุดก็ได้เปิดตัว Hornet รุ่นที่โคตรเท่แล้ว อย่างไรก็ตาม น่าเสียดายที่คุณไม่สามารถซื้อได้ เนื่องจากรถรุ่นนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อแข่งขันในซีรีส์ Nitrocross ประจำปี 2024-2025 เท่านั้น
รายละเอียดทางเทคนิคของ Hornet R/T FC1-X
Hornet R/T FC1-X ซึ่งเตรียมลงแข่งขันในคลาส Group E เป็นรถยนต์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงที่มาพร้อมกับมอเตอร์แบบแกนหมุน 4 ตัว ที่ให้กำลังรวม 1,070 แรงม้า (798 กิโลวัตต์ / 1,085 แรงม้า PS) รถขับเคลื่อนสี่ล้อรุ่นนี้สามารถเร่งความเร็วจาก 0-60 ไมล์ต่อชั่วโมง (0-96 กม./ชม.) ได้ในเวลาเพียง 1.4 วินาที
การออกแบบและคุณสมบัติพิเศษ
นอกจากระบบขับเคลื่อนประสิทธิภาพสูงแล้ว รถแรลลี่คันนี้ยังมาพร้อมกับลวดลายภายนอกที่ออกแบบในสไตล์ของ Dodge ซึ่งค่อนข้างคล้ายกับรุ่นที่ใช้วิ่งบนถนนทั่วไป อย่างไรก็ตาม ไม่สามารถสับสนระหว่างสองรุ่นนี้ได้แน่นอน เพราะ FC1-X เป็นรถคูเป้สองประตูที่มาพร้อมกับสปอยเลอร์หลังขนาดใหญ่ และดิฟฟิวเซอร์ที่ดูราวกับถูกออกแบบโดย NASA
เทคโนโลยีการแข่งขัน
สิ่งที่ทำให้รถคันนี้โดดเด่นไม่ใช่แค่เพียงรูปลักษณ์เท่านั้น รุ่นนี้ยังมาพร้อมกับแชสซีแบบท่อ ระบบกันสะเทือนแบบปีกนกคู่ปรับระดับได้ และช่วงยุบของล้อสูงถึง 12 นิ้ว นอกจากนี้ยังติดตั้งระบบเบรก Alcon และเหล็กกันโคลงที่สามารถปรับได้อีกด้วย
ทีมแข่งและนักขับ
Dodge จะส่งรถเข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 4 คัน โดยเป็นผลจากการร่วมมือกับทีมแข่ง Dreyer & Reinbold Racing นักแข่งที่จะขับรถเหล่านี้ประกอบด้วย Lia Block, Robin Larsson, Fraser McConnell และ Andres Bakkerud
กลยุทธ์การตลาดของ Dodge
Matt McAlear ซีอีโอของ Dodge กล่าวว่า Nitrocross เป็น "สถานที่ที่เหมาะสม" สำหรับแบรนด์ เนื่องจากประมาณ 75% ของแฟนๆ อยู่ในช่วงอายุ 18 ถึง 34 ปี ซึ่งทำให้บริษัทมีโอกาสโปรโมตรถรุ่น Hornet ให้กับกลุ่มผู้ชมรุ่นใหม่ที่เต็มไปด้วยความกระตือรือร้น
Source: Moparinsiders